รู้จักกับบัตรเดบิตกรุงเทพ ที่เป็นมากกว่าบัตรกดเงิน
บัตรเดบิตกรุงเทพคือ บัตรที่จะเพิ่มความสะดวกสบายสามารถจะใช้แทนเงินสดได้ ใช้ชำระค่าสินค้าต่างๆค่าบริการที่หลากหลาย หรือแม้แต่ชำระค่าสินค้าออนไลน์ได้ ด้วยคุณสมบัติที่คล้ายกับบัตรเครดิตเกือบทุกอย่าง ต่างกันตรงที่มาของวงเงินที่นำมาใช้ โดยหากเป็นบัตรเครดิตกรุงเทพจะใช้วงเงินสินเชื่อล่วงหน้า ซึ่งจะมีดอกเบี้ยจากการใช้วงเงิน ส่วนบัตรเดบิตกรุงเทพจะใช้วงเงินที่อยู่ในบัญชีเงินฝากที่ผูกไว้กับบัตรเดบิตนั้นๆ
บัตรเดบิตกรุงเทพรูดได้ไหม
ปัจจุบันบัตรเดบิตกรุงเทพ หรือบัตรเดบิตของธนาคารอื่นๆก็ตาม ล้วนเปลี่ยนเป็นระบบชิปการ์ดหมดแล้ว ซึ่งระบบการใช้งานก็สามารถจะรูดซื้อของได้ตามร้านค้าทั่วไปได้แล้ว โดยสามารถจะใช้วิธีแตะจ่ายผ่าน Contactless ซึ่งที่ร้านค้านั้นๆจะต้องมี สัญลักษณ์ Contactless ด้วยรวมถึงการจ่ายค่าสินค้าตามร้านค้าต่างๆที่มีสัญลักลักษณ์ VISA และ MasterCard ด้วยชิปการ์ด
บัตรเดบิตกรุงเทพสมัครง่ายๆใช้ได้ไม่แพ้บัตรเครดิต
-
บัตรเดบิตกรุงเทพ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น มาสเตอร์การ์ด
บัตรที่ใช้ได้กับทุกๆไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ให้กับทุกๆธุรกรรมการเงิน ด้วยระบบแตะจ่ายเพื่อชำระเงินกับ Contactless และยังมีความปลอดภัยสูงเมื่อมีการกดเงิน โอน หรือจ่าย ด้วยระบบชิปการ์ดซึ่งจะต้องมีการใส่รหัส 6 หลัก ช้อปได้แบบสะดวกทั้งร้านค้าออนไลน์ และร้านค้าที่รับบัตรชิปการ์ดซึ่งจะต้องมีสัญลักษณ์มาสเตอร์การ์ด ในการสมัครเพียงใช้บัตรประชาชนตัวจริง และสมุดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ สำหรับค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาทและค่าธรรมเนียมราบปี 300 บาท
-
บัตรเดบิตกรุงเทพ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น ยูเนี่ยนเพย์
เป็นบัตรที่มีความปลอดภัยสูงกับการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ การกดเงิน โอน หรือจ่าย ด้วยรหัสประจำตัว 6 หลัก ยังได้สิทธิประโยชน์มากมายจาก UnionPay International และยังได้รับ SMS แจ้งทางมือถือในทุกๆครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 300 บาทขึ้นไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสมัครได้ที่ธนาคารกรุงเทพใกล้ๆบ้าน หรือที่สะดวก พร้อมกับบัตรประชาชน และสมุดบัญชีเงินฝาก ด้วยค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท กับค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาทซึ่งปกติจะอยู่ที่ 300 บาทและจะหมดเขตวันที่ 15 มกราคม 2567 ที่จะถึงนี้
-
บัตรเดบิตกรุงเทพ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท
ครบจบในบัตรเดียวด้วยการ ช้อปปิ้งตามร้านทั่วไปที่มีสัญลักษณ์ UnionPay และร้านค้าที่รองรับระบบชิปการ์ด รวมไปถึงการกดเงิน โอนเงิน และจ่ายค่าบริการต่างๆ ที่ตู้ ATM ซึ่งจะต้องใช้รหัส 6 หลัก ที่มีความปลอดภัยอย่างสูง ใช้เป็นบัตรสำหรับโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสและบีอาร์ทีและยังได้รับคะแนนสะสมแรบบิท พอยท์ จากการเติมจำนวนเที่ยวโดยสาร หรือเติมเงินในบัตรที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี การสมัครโดยเตรียมบัตรประชาชน และสมุดบัญชีเงินฝาก โดยจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาทและค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาทซึ่งจากเดิม 300 บาทและจะหมดเขตวันที่ 15 มกราคม 2567
